วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สาวๆ มาดูแลผิวปากในหน้าหนาวกัน

ช่วงนี้สังเกตให้ดีๆ จะรู้สึกว่าเช้ามาเริ่มมีลมเย็นๆ พัดมาบ้างแล้ว ... แสดงว่าอีกไม่นานเราก็จะได้เข้าสู่หน้าหนาวกันอย่างเต็มตัว ปัญหาหนึ่งที่สาวๆ มักจะต้องเผชิญในหน้าหนาว นอกจากเรื่องของผิวที่แห้งแตกแล้ว ปัญหาเรื่อง "ปากแห้งแตก" ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ทำให้สาวๆ หลายคนหงุดหงิด เพราะนอกจากอาหารแห้งแตกจะทำให้เรารู้สึกเจ็บแล้ว ยังทำให้เราเสียบุคลิกอีกด้วยล่ะ


ผิวบริเวณปากนั้นเป็นผิวที่มีความบอบบางและละเอียดอ่อนกว่าผิวส่วนอื่นๆ (บอบบางพอๆ กับผิวรอบดวงตาของเราเลยล่ะค่ะ) ดังนั้นเราจึงควรที่จะใส่ใจดูแลริมฝีปากของเราเป็นพิเศษในช่วงหน้าหนาวซึ่งเป็นช่วงที่มีอากาศค่อนข้างแห้ง นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถทำให้ผิวปากของเราแห้ง เช่น แสงอาทิตย์ ลม ความแห้งจากเครื่องปรับอากาศ เพราะริมฝีปากของเราไม่มีต่อมน้ำมันสำหรับเคลือบป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น และแม้แต่การเลียริมฝีปากบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้ริมฝีปากแห้งแตก หรือลอกเป็นขุยได้


>>> ลิปบาล์มช่วยได้ ... ลิปปาล์มหรือลิปมัน มีส่วนผสมมาจากสารที่เป็นไขมันหรือคอเลสเตอรอล เช่น ขี้ผึ้ง หรือคาร์นูบาแว็กซ์ ที่ช่วยเคลือบริมฝีปากและเก็บกักความชุ่มชื่นไว้ใต้ผิวหนัง นอกจากนี้ในปัจจุบันได้มีการผสมสารกันแดดลงไปในลิปบาล์มหรือลิปสติกจำนวนมาก ด้วย เนื่องจากมีการวิจัยพบว่าผิวบริเวณริมฝีปากนั้นแทบจะไม่มีเมลานินซึ่งเป็น กลไกหลักในการป้องกันแสงแดดอยู่เลย ซึ่งแน่นอนว่านั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ปากแห้งแตกได้ง่าย ดังนั้นการใช้ลิปสติกหรือลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของสารกันแดดทุกวันจึงจำเป็น เช่นเดียวกับการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเลยทีเดียวล่ะ

>>> บำรุงผิวปากด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ... เมื่ออายุของเรามากขึ้น ริมฝีปากก็จะสูญเสียไขมันและยิ่งบางลง แถมผิวยังมีริ้วรอยเหี่ยวได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นในขณะที่เราทาครีมบำรุงผิวหน้าจึงไม่ควรลืมบำรุงผิวปากด้วย โดยใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้กับผิวหน้าซึ่งมีส่วนผสมของวิตามินเอ ซี อี และสารป้องกันแสงแดดซึ่งช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการแก่ก่อนวัย

>>> มาส์กพอกหน้าก็สามารถใช้บำรุงผิวปากได้ ...การ ใช้มาสก์พอกหน้ามาพอกบริเวณริมฝีปากก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยบำรุงผิวปาก ได้ แต่สิ่งที่สาวๆ ควรรู้ก็คือไม่ใช่ว่าจะใช้มาสก์แบบไหนก็ได้นะคะ มาสก์ที่จะใช้ในการบำรุงผิวปากนั้นควรเลือกใช้มาสก์ชนิดที่เพิ่มความชุ่ม ชื้นให้กับผิวเท่านั้น

>>> ดื่มน้ำสะอาดช่วยได้แน่นอน ... ควรดื่มน้ำเป็นประจำวันละ 6 - 8 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก้ริมฝีปากของเราค่ะ แถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราดีด้วย

>>> โยคะใบหน้าเป็นประจำ ทำได้ไม่ยาก ... วิธีนี้จะช่วยบริหารเรียวปากเพื่อลดริ้มรอยก่อนวัยค่ะ โดยเวลาทำให้เรานั่งหน้ากระจกในท่าผ่อนคลายที่สุด จากนั้นเให้เริ่มจากการฉีกยิ้มมุมปากทั้งสองให้กางออกไปทางด้านข้างช้าๆ แล้วค่อยๆ หุบกลับมา ทำแบบนี้ซ้ำๆ กันประมาณ 20 ครั้งขึ้นไป การบริหารปากบ่อยๆ จะช่วยให้มุมปากไม่ตกและไม่มีริ้วรอยรอบมุมปากค่ะ แถมยังช่วยให้ขากรรไกรของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

จริงหรือไม่ดูทีวีทุก 1 ชม. อายุสั้นลงเกือบ 22 นาที


ช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา มีอาการเรียลลิตี้ลิซึ่มอย่างรุนแรง วันทั้งวันต้องสแตนบายดู AF ตลอดเวลา ตื่นมาก็เปิดดู ก่อนจะนอนก็ต้องเปิดแล้วตั้งเวลาทิ้งไว้แล้วค่อยหลับไป ทำแบบนี้ทุกวันๆ ... แต่พอเมื่อเช้าได้มาอ่านผลการวิจัยชิ้นหนึ่งแล้วถึงกับต้องอึ้งกันไปเลยทีเดียว เพราะเขาได้มีการทำการวิจัยออกมาแล้วว่า สำหรับคนที่มีอายุอยู่ในวัยผู้ใหญ่ ทุก 1 ชั่วโมงที่ดูทีวี ดีวีดี และวีดีโอ อาจทำให้อายุขัยลดลงเกือบ 22 นาที!!!

ไม่จริงนะ!! มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ... เชื่อเถอะว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวได้รับการยืนยันมาแล้วจากทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ที่ถูกเผยแพร่อยู่ในวารสารบริติช เจอร์นัล ออฟ สปอร์ตส์ เมดิซิน โดยในรายงานได้ระบุผลการศึกษาไว้ชัดเจนเลยว่า นอกจากการดูทีวีทุก 1 ชั่วโมงจะทำให้คนที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่อายุสั้นลงประมาณ 22 นาทีแล้ว การดูทีวีวันละ 6 ชั่วโมงโดยเฉลี่ยสามารถทำให้ชีวิตสั้นลง 5 ปี อีกด้วย


งานวิจัยชิ้นนี้ระบุว่า รูปแบบการใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ เป็นการใช้ชีวิตที่ทำร้ายสุขภาพพอๆ กับการสูบบุหรี่และการรับประทานมากจนทำให้เป็นโรคอ้วน เนื่องจากร่างกายนั้นไม่ได้ออกกำลังกายเพราะใช้เวลาไปกับการดูทีวีและกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์

ในการทำการศึกษาเพื่อหาความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องระหว่างพฤติกรรมการดูทีวีและอายุขัยที่สั้นลงของมนุษย์นั้น ทีมนักวิจัยได้ตั้งโจทย์คำนวณความเสี่ยงโดยรวมต่ออายุคาดเฉลี่ยจากการดูทีวี จากข้อมูลที่เก็บจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 11,000 คน อายุ 25 ปีขึ้นไป
รายงานการศึกษาสรุปว่า เวลาในการดูทีวีอาจเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตที่เทียบได้กับปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังสำคัญ เช่น การไม่ออกกำลังกายและโรคอ้วน รวมถึงการสูบบุหรี่ ซึ่งงานวิจัยอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า บุหรี่ 1 มวนทำให้อายุสั้นลง 11 นาที หรือเท่ากับการดูทีวีครึ่งชั่วโมงนอกจากนี้ทีมนักวิจัยยังใช้ข้อมูลจากการศึกษาโรคเบาหวาน โรคอ้วน และรูปแบบการใช้ชีวิตของคนออสเตรเลีย รวมถึงข้อมูลประชากรและอัตราการตายมาเป็นข้อมูลสนับสนุนผลการศึกษาดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ดี นักวิจัยยืนยันว่าผลลัพธ์ที่ได้น่าจะครอบคลุมถึงประเทศอุตสาหกรรมและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ด้วย โดยพิจารณาจากเวลาในการดูทีวีและรูปแบบโรคที่ใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้มีข้อมูลที่ส่งเสริมผลการศึกษาดังกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง โดยนักวิจัยจากคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐฯ ระบุว่าการที่การดูทีวีนานๆ ส่งผลให้เกิดโรคและการเสียชีวิตก่อนวัยน่าจะมีเหตุผลจากปัจจัยทางชีววิทยา เนื่องจากมีงานวิจัยหลายฉบับบ่งชี้ว่า พฤติกรรมการนั่งๆ นอนๆ เชื่อมโยงกับโรคอ้วน ระดับไขมันในเลือดสูง และปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจอื่นๆ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการกินอาหารขยะ

ทั้งนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีงานวิจัยฉบับหนึ่งชี้ว่า ความเสี่ยงโรคเบาหวานประเภท 2 และโรคหัวใจ หรือการเสียชีวตก่อนวัยเพิ่มขึ้นถึง 20% จากการดูทีวีเพียงวันละ 2 ชั่วโมง ในทางกลับกัน ผลการศึกษาอีกฉบับแสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกายเพียง 15 นาทีต่อวัน สามารถเพิ่มอายุคาดเฉลี่ยได้ถึง 3 ปี และลดความเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัย 14% รวมทั้งลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ 4%



วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บางมหาวิทยาลัยเขามีการกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำคะแนน GAT ด้วยนะ

สวัสดีครับ.. น้องๆ รู้หรือเปล่าครับว่า การสอบ GAT ใช่ว่าพอถึงวันสอบก็ไปสอบ พอประกาศก็เอาคะแนนไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย แต่ความจริงแล้วบางคณะ หรือบางมหาวิทยาลัยเขามีการกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำคะแนน GAT ด้วยนะครับ ใครที่ได้ไม่ถึงตามเกณฑ์ก็อดแอดฯ ติดคณะนั้นทันที จ๊ากกก



วันนี้ พี่ลาเต้ เลยมีรายชื่อคณะ และมหาวิทยาลัยที่กำหนดเกณฑ์ขึ้นต่ำของวิชา GAT มาให้ดูกันครับ จะได้มีเป้าหมายในการทำคะแนนรอบนี้ จะมีคณะอะไรบ้างไปดูกันเลย


มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

- คณะเศรษฐศาสตร์ สาขาธุรกิจการเกษตร ภาคพิเศษ GAT = 25%+



มหาวิทยาลัยขอนแก่น

- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาชาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ GAT = 30%+

- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาชขาวิชาออกแบบอุตสาหกรรม GAT = 30%+



มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

- คณะเภสัชศาสตร์ ม.เชียงใหม่ GAT = 25%+



มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ GAT = 25%+

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการยั่งยืน

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีการเกษตร

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาคณิตศาสตร์

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติ

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเคมี

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาฟิสิกส์อิเล็กทรอนิกส์

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาฟิสิกส์

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งทอ

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวัสดุศาสตร์

- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ภาคพิเศษ



มหาวิทยาลัยนเรศวร

- คณะศึกษาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ GAT = 30%+

- คณะศึกษาศาสตร์ สาขาเคมี GAT = 30%+

- คณะศึกษาศาสตร์ สาขาชีววิทยา GAT = 30%+

- คณะศึกษาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ GAT = 30%+



มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

- คณะแพทยศาสตร์ สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต GAT = 20%+

- คณะแพทยศาสตร์ สาขาเวชกิจฉุกเฉิน GAT = 20%+

- คณะเภสัชศาสตร์ สาขาบริบาลเภสัชกรรม GAT = 25%+



มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

- ทุกคณะ ทุกสำนักวิชา GAT = 20%+



มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ GAT = 25%+

- สำนักวิศวกรรมศาสตร์และทรัพยากร สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม

- สำนักวิศวกรรมศาสตร์และทรัพยากร สาขาเทคโนโลยีจัดการทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง



มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

- คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาเพื่ออาชีพ GAT = 30%+

- คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ GAT = 40%+

- คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส GAT = 40%+

- คณะศึกษาศาสตร์ สาขาจิตวิทยาและการแนะแนว GAT = 40%+

- คณะศิลปกรรมศาสตร์ GAT = 30%+

- คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์ GAT = 35%+

- คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศึกษา GAT = 20%+

- คณะพลศึกษา GAT = 20%+



มหาวิทยาลัยศิลปากร

- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ GAT = 25%+



มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

- คณะทันตแพทยศาสตร์ GAT = 25%+

- คณะเภสัชศาสตร์ GAT = 25%+

- คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ GAT = 25%+

- คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา GAT = 25%+



มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

- คณะเภสัชศาสตร์ GAT = 25%+



สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

- คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น GAT = 40%+

- คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิชาภาษาอังกฤษ GAT = 50%+



สรุปอีกทีนะครับ

- GAT = 50%+ หมายถึง คนที่เข้าคณะนี้ต้องได้ GAT 150 คะแนนขึ้นไป

- GAT = 40%+ หมายถึง คนที่เข้าคณะนี้ต้องได้ GAT 120 คะแนนขึ้นไป

- GAT = 35%+ หมายถึง คนที่เข้าคณะนี้ต้องได้ GAT 105 คะแนนขึ้นไป

- GAT = 30%+ หมายถึง คนที่เข้าคณะนี้ต้องได้ GAT 90 คะแนนขึ้นไป

- GAT = 25%+ หมายถึง คนที่เข้าคณะนี้ต้องได้ GAT 75 คะแนนขึ้นไป

- GAT = 20%+ หมายถึง คนที่เข้าคณะนี้ต้องได้ GAT 60 คะแนนขึ้นไป